เมื่อทำงานในโครงการ React ขนาดใหญ่ สิ่งสำคัญคือต้องมีฐานโค้ดที่มีการจัดระเบียบอย่างดีเพื่อการบำรุงรักษาและความสามารถในการปรับขนาดที่ดียิ่งขึ้น
ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการจัดระเบียบซอร์สโค้ดของคุณใน React โดยเน้นที่การใช้ React Hooks และบริบท
การใช้ React Hooks เพื่อการจัดการสถานะ
React Hooks คือชุดของฟังก์ชันที่ให้คุณใช้สถานะและฟีเจอร์ React อื่นๆ โดยไม่ต้องใช้คลาส ซึ่งช่วยให้เขียนโค้ดได้กระชับและอ่านง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น เราสามารถใช้ useState Hook เพื่อจัดการสถานะในส่วนประกอบ
นี่คือตัวอย่าง:
import React, { useState } from 'react';
function Counter() {
const [count, setCount] = useState(0);
const increment =() => {
setCount(count + 1);
};
return(
<div>
<p>Count: {count}</p>
<button onClick={increment}>Increment</button>
</div>
);
}
export default Counter;
การผสมผสานของส่วนผสม
ข้อดีอย่างหนึ่งของ React คือความสามารถในการนำส่วนประกอบกลับมาใช้ใหม่ เพื่อเพิ่มองค์กร เราสามารถใช้ส่วนประกอบที่เล็กลงเพื่อสร้างส่วนประกอบที่ใหญ่ขึ้น
สิ่งนี้ช่วยแบ่งงานและทำให้โค้ดง่ายต่อการบำรุงรักษา ตัวอย่างเช่น เราสามารถสร้าง <Button>
ส่วนประกอบเพื่อใช้ในหลายๆ ที่ในแอปพลิเคชันของเรา:
import React from 'react';
function Button({ onClick, children }) {
return <button onClick={onClick}>{children}</button>;
}
export default Button;
การใช้บริบทเพื่อจัดการสถานะส่วนกลาง
บริบทเป็นกลไกใน React ที่ช่วยให้เราสามารถแบ่งปันข้อมูลระหว่างองค์ประกอบลูกโดยไม่ต้องผ่านองค์ประกอบหลัก วิธีนี้จะหลีกเลี่ยงการส่งผ่านแอตทริบิวต์ข้อมูลในหลายระดับของส่วนประกอบและช่วยลดความซับซ้อนของโค้ด
นี่คือตัวอย่างการใช้ Context เพื่อแชร์ภาษาปัจจุบันในแอปพลิเคชัน:
import React, { createContext, useContext, useState } from 'react';
const LanguageContext = createContext();
function App() {
const [language, setLanguage] = useState('en');
const changeLanguage =(newLanguage) => {
setLanguage(newLanguage);
};
return(
<LanguageContext.Provider value={{ language, changeLanguage }}>
<div>
<Navbar />
<Content />
</div>
</LanguageContext.Provider>
);
}
function Navbar() {
const { language, changeLanguage } = useContext(LanguageContext);
return(
<div>
<button onClick={() => changeLanguage('en')}>English</button>
<button onClick={() => changeLanguage('fr')}>French</button>
<button onClick={() => changeLanguage('es')}>Spanish</button>
<p>Current language: {language}</p>
</div>
);
}
function Content() {
const { language } = useContext(LanguageContext);
return <p>This is the content in {language}.</p>;
}
export default App;
ด้านบนเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการจัดระเบียบซอร์สโค้ด React โดยใช้ React Hooks และบริบท