Redis รองรับโครงสร้างข้อมูลที่หลากหลาย ช่วยให้คุณสามารถจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ ด้านล่างนี้คือโครงสร้างข้อมูลบางส่วน Redis และวิธีการใช้งาน:
String
- เก็บค่าเดียวสำหรับแต่ละคีย์
- ใช้สำหรับกรณีง่ายๆ เช่น การจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้ การนับ เป็นต้น
- คำสั่งทั่วไป:
SET, GET, INCR, DECR, APPEND, etc.
Hashes
- จัดเก็บเขตข้อมูลและค่าที่เกี่ยวข้องสำหรับคีย์
- ใช้สำหรับการจัดเก็บข้อมูลที่ซับซ้อนด้วยฟิลด์และค่าที่มีชื่อ
- คำสั่งทั่วไป:
HSET, HGET, HDEL, HKEYS, HVALS, etc.
รายการ
- เก็บรายการลำดับของค่า
- ใช้สำหรับกรณีที่คุณต้องการสำรวจรายการตามลำดับหรือใช้คิว
- คำสั่งทั่วไป:
LPUSH, RPUSH, LPOP, RPOP, LRANGE, etc.
Sets
- เก็บชุดของค่าที่ไม่ซ้ำกัน โดยไม่มีลำดับใดๆ
- ใช้สำหรับค้นหาและประมวลผลองค์ประกอบเฉพาะ
- คำสั่งทั่วไป:
SADD, SREM, SMEMBERS, SINTER, SUNION, etc.
Sorted Sets
- เก็บชุดของค่าที่ไม่ซ้ำกันซึ่งจัดเรียงตามคะแนนที่เกี่ยวข้อง
- ใช้สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลที่สั่งซื้อ
- คำสั่งทั่วไป:
ZADD, ZREM, ZRANGE, ZRANK, ZSCORE, etc.
โครงสร้างข้อมูลที่ซับซ้อนอื่นๆ
Redis ยังรองรับโครงสร้างข้อมูลที่ซับซ้อนอื่นๆ เช่น Bitmaps(BITOP), HyperLogLogs(PFADD, PFCOUNT), Geospatial(GEOADD, GEODIST), Streams(XADD, XREAD), etc.
เมื่อใช้ Redis ให้พิจารณาเลือกโครงสร้างข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับแต่ละกรณีการใช้งาน เพื่อใช้ประโยชน์จากพลังของ Redis การจัดเก็บและประมวลผลข้อมูล อย่างมีประสิทธิภาพ